Ridji แก้ริดสีดวงทวาร
Ridji แก้ริดสีดวงทวาร 6 สมุนไพรที่ควรทาน ถ้าคุณเป็น “ริดสีดวงทวาร”
Ridji แก้ริดสีดวงทวาร ริดสีดวง จากอาการ “ท้องผูก” สาเหตุหลักนำไปสู่ มีเลือดออกหลังอุจจาระ เจ็บบริเวณรอบทวารหนัก ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสด คลำพบติ่งเนื้อบริเวณทวารหนัก มีติ่งในรูทวารหนัก และมีติ่งเนื้อยื่นออกมาขณะถ่ายอุจจาระ ดูแลได้ไม่ยากด้วย Ridji ริดจิ รวม 6 สมุนไพรไทยทรงคุณค่าที่มีสรรพคุณต้านการอักเสบของริดสีดวงทวาร ทั้งติ่งภายใน และติ่งภายนอก ช่วยให้ลุกนั่งสะดวก เดินสบาย ไม่ถ่ายเป็นเลือด หัวริดสีดวงฝ่อยุบ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องจ่ายเงินเยอะ ใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนเดิม
ประโยชน์ 6 สมุนไพร ที่แก้ “ริดสีดวงทวาร”
ริดจิ อาหารเสริมที่ได้รวมสมุนไพรทั้ง 6 ชนิดเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เป็นนวัตกรรมสมุนไพรด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ริดจิ เป็นนวัตกรรมสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
สำหรับผู้มีอาการริดสีดวงทวารหนัก เพื่อการขับถ่ายสะดวก ริดจิ ประกอบด้วยสารสกัดจากสมุนไพรไทย 6 ชนิด โกฐพุงปลา โกฐขี้แมว โกฐเชียง โกฐเขมา ผงบุก และสารสกัดขมิ้นชัน เป็นสารสกัดคุณภาพสูงที่รวมอยู่ใน ริดจิ โดย ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร ได้นำนวัตกรรมสมุนไพรไทยชนะเลิศ 21 รางวัลเหรียญทองระดับโลก และสถาบันวิจัยสมุนไพรไทย NSPi เห็นถึงปัญหาปัจจุบันคนไทยกว่า 70% เป็นริดสีดวงทวาร จึงทำการวิจัย เพื่อสกัดเอาสารสำคัญของสมุนไพรออกมาให้ได้ประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุด จนมาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผสานนวัตกรรมสมุนไพร เพื่อช่วยผู้มีภาวะทวารหนักอักเสบ เพื่อลดความปวดร้าวห่างไกลจาก “ริดสีดวงทวาร”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 096-242-2952 ,095-534-9939
ริดจิ รวม 6 สมุนไพรไทยทรงคุณค่า ที่มีสรรพคุณแก้ปัญหาต้านการอักเสบของริดสีดวง ทั้งติ่งภายใน และติ่งภายนอก ช่วยให้ลุกนั่งสะดวก เดินสบาย ไม่ถ่ายเป็นเลือด หัวริดสีดวงฝ่อยุบ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องจ่ายเงินเยอะ ใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนเดิม สาเหตุหลักมักเริ่มจากมีอาการ “ท้องผูก” มาเป็นระยะเวลานานจนนำไปสู่ มีเลือดออกหลังอุจจาระ เจ็บบริเวณรอบทวารหนัก ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสด คลำพบติ่งเนื้อบริเวณทวารหนัก มีติ่งในรูทวารหนัก และมีติ่งเนื้อยื่นออกมาขณะถ่ายอุจจาระ
5 อาการแบบไหนควรรีบดูแล
- มีเลือดออกหลังถ่ายอุจจาระ
- มีก้อนเนื้อออกมาขณะถ่ายอุจจาระ
- ทวารหนักเปียกแฉะ คันรอบๆปากทวารหนัก
- มีการอักเสบของริดสีดวง และเจ็บบริเวณทวารหนัก
- เวลาคลำจะพบก้อนเนื้อบริเวณทวารหนัก
หากพูดถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบขับถ่าย ปัญหายอดฮิตติดอันดับของคนไทยคงหนีไม่พ้นโรคริดสีดวงทวาร ที่ไม่มีใครอยากเป็น และมีคนจำนวนถึง 70% ที่ป่วยเป็นโรคนี้ และ ผู้หญิง มีอัตราการป่วยมากกว่าผู้ชาย โดยคนอายุเฉลี่ย 45 – 65 ปี จะมีปัญหานี้มากที่สุด ทำให้มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แม้จะนั่งเฉยๆก็ยังลำบาก
โรคริดสีดวงทวาร คืออะไร
ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids / Piles) หรือเรียกสั้นๆว่า ริดสีดวง คือ การมีกลุ่มของหลอดเลือดดำบริเวณปลายสุดของลำไส้ใหญ่ และที่ขอบรูทวารหนักโป่งพองยื่นออกมา อาจก่อให้เกิดอาการปวด บวม เจ็บ หรือคัน ทำให้นั่งถ่ายลำบาก ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันต้องเปลี่ยนไป หากปล่อยทิ้งไว้อาจลุกลามเป็นปัญหาใหญ่สำหรับสุขภาพ และการใช้ชีวิตได้
ริดสีดวงทวารแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
- ริดสีดวงทวารชนิดภายใน (Internal Hemorrhoids) : เป็นริดสีดวงทวารที่เกิดเหนือทวารหนักขึ้นไป ตามปกติจะไม่โผล่ออกมาให้เห็นและคลำไม่ได้ และมักจะถูกคลุมด้วยเยื่อลำไส้ใหญ่ตอนปลายสุด ถ้ามีลิ่มเลือดจะรู้สึกเจ็บปวดมาก หากหายเจ็บหรือหายบวมแล้ว ติ่งเนื้ออาจจะยังคงอยู่
- ริดสีดวงทวารชนิดภายนอก (External Hemorrhoids) : เป็นริดสีดวงทวารที่เกิดขึ้นบริเวณปากรอยย่นของทวารหนัก สามารถมองเห็นและคลำได้ หลอดเลือดที่โป่งพองจะถูกคลุมด้วยผิวหนัง จึงอาจเกิดความเจ็บปวดได้ เพราะผิวหนังมีปลายประสาทรับความรู้สึก มีเลือดแดงสดไหลออกมา ขณะถ่ายโดยไม่รู้สึกเจ็บปวด อาจมีปัญหาเรื่องการกลั้นอุจจาระ และรู้สึกคันบริเวณทวาร
ริดสีดวงภายในแบ่งเป็น 4 ระยะ
ระยะที่ 1
มีเส้นเลือดดำโป่งพองเกิดอยู่ภายในทวารหนักและลำไส้ตรง จะมีขนาดเล็ก ยังไม่มีหัวริดสีดวงโผล่ออกมา
ระยะที่ 2
มีขนาดใหญ่ขึ้น หัวริดสีดวงเริ่มยื่นโผล่ออกมาอยู่ที่ปากทวารหนัก ในขณะถ่ายอุจจาระ แต่สามารถกลับเข้าไปได้เอง
ระยะที่ 3
หัวริดสีดวงจะไม่สามารถกลับเข้าไปภายในได้เอง หลังจากขับถ่ายอุจจาระเสร็จ แต่ยังสามารถใช้นิ้วดันกลับเข้าไป
ระยะที่ 4
หัวริดสีดวงมีขนาดใหญ่ จะค้างอยู่ที่ปากทวารหนัก ถึงแม้จะใช้นิ้วดันก็ไม่สามารถดันกลับเข้าไปได้อีก จะมีอาการเจ็บปวดมาก
9 อาการเสี่ยงเป็นโรคริดสีดวงทวาร
- ท้องผูก การเบ่งอุจจาระเป็นประจำ แรงเบ่งจะเพิ่มความดัน และ/หรือการบาดเจ็บในกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด ส่งผลให้หลอดเลือดโป่งพองหรือหลอดเลือดขอดได้ง่าย
- ท้องเสียเรื้อรัง การอุจจาระบ่อยๆ จะเพิ่มความดันและ/หรือการบาดเจ็บในกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือดเช่นกัน
- การนั่งถ่ายนานๆ จะกดทับกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด จึงเพิ่มความดัน การบาดเจ็บต่อกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด
- อายุ ผู้สูงอายุจะมีการเสื่อมของเซลล์ต่างๆ รวมทั้งของกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด จึงเกิดการโป่งพองได้ง่าย
- โรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน ส่งผลให้เพิ่มแรงดันในช่องท้อง และในอุ้งเชิงกรานสูงขึ้น เลือดจึงคั่งในกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือดเช่นเดียวกับหญิงตั้งครรภ์
- การตั้งครรภ์ น้ำหนักของครรภ์ จะกดทับลงบนกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด จึงคั่งอยู่ในหลอดเลือดเกิดการบวมโป่งพองได้ง่าย
- มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก จึงเกิดการกดเบียด/บาดเจ็บต่อกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือดส่วนนี้เรื้อรัง จึงมีเลือดคั่งในหลอดเลือด เกิดการโป่งพองได้ง่าย
- พันธุกรรม พบโรคได้สูงกว่า เมื่อครอบครัวมีประวัติเป็นโรคริดสีดวงทวาร
- โรคแต่กำเนิดที่ไม่มีลิ้นเปิดปิด (Valve) หลอดเลือดดำในเนื้อเยื่อหลอดเลือด ซึ่งช่วยในการไหลเวียนเลือด เกิดภาวะเลือดคั่งในหลอดเลือด จึงเกิดหลอดเลือดโป่งพองได้ง่าย
#ridji #ริดจิ #ริดสีดวงทวาร #สมุนไพร